เที่ยวอลาสก้า
5February 28, 2010 by Lin
อลาสกาเป็นที่ ๆ หนึ่งในโลก ผมอยากไป โดยเฉพาะไป Trekking ตามลำน้ำกลางป่า ในหุบเขาลึก ๆ มีต้นสนเขียว ๆ ตัวกับเทือกเขาสวย ๆ เป็นฉากหลัง พอตกค่ำคืน ก็กางเต๊นท์นอน ดูดาว ฟังเสียงธรรมชาติ ดูหมีกริซลี (Grizzly Bear)ขนปุย ๆ ที่เป็นต้นกำเนิดตุ๊กตาหมี เดินไปมาอยู่ลิบ ๆ
หมีกริซลี่ นอกจากเป็นแรงบันดาลใจให้คนสร้างตุ๊กตาหมีแล้ว … คำว่าตลาดหมี ศัพท์นักลงทุน เริ่มมาจากเจ้านี่แหละ
ยิ่งได้มาศึกษาสถานที่แห่งนี้ ยิ่งมีเสน่ห์ จนอยากไปสุด ๆ เคลิ้ม ๆๆ
ทำไมถึงสนใจมาศึกษาหรอครับ เนื่องจากกำลังหาข้อมูลให้คุณพ่อคุณแม่ ท่านมีแพลนจะไปประชุมที่แวนคูเวอร์ แคนาดากลางปีนี้ จึงหาโอกาสให้ท่านไปเที่ยวอลาสก้าต่อไปในคราวเดียว สำหรับผมก็เก็บเงินลงทุนดีกว่า อีก 10 ปี ไว้ไปเที่ยวก็ยังไม่สาย
ก็ถือโอกาส เอา Research ที่ผมทำคร่าว ๆ มาแปะไว้ตรงนี้ แต่บอกก่อนว่า เป็นลักษณะการซื้อทัวร์ แนวสบาย ๆ ชิล ๆ ตามวัยของผู้เดินทาง ไม่ใช่แนวทางการเดินทางทรหด ดุเดือดสไตล์ผมแต่อย่างใด
เท่าที่ศึกษามาหลาย ๆ ที่ การเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุดคือ เริ่มต้นจากท่าเรือฝั่งแคนาดา(เช่น Port Vancouver) หรือฝั่งสหรัฐฯ (เช่น Port Seattle) แล้วล่องเรือใช้เวลา 6-10 วัน เพื่อชม Glacier ต่าง ๆ และวิวริมทาง ที่งามมาก การเดินทางลักษณะนี้ ผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะออกแนวเบื่อรึเปล่า เนื่องจากต้องอยู่บนเรือ (ที่เหมือนจะใหญ่ แต่จริง ๆ พื้นที่ส่วนกลางก็มีอยู่เพียงจำนวนหนึ่ง) คนที่ไม่ชอบธรรมชาติ อาจจะไม่ชอบ สำหรับผู้ที่ชอบสีน้ำทะเลเข้ม ๆๆๆๆ ตัดกับสีฟ้า ยิ่งเห็นวิวแผ่นดินสวย ๆ ไกล ๆ ผมผ่านสำหรับการเดินทาง Mode นี้
หลังจากถึงอลาสก้า (โดยมากจะลงที่ Port Whittier) Whittier มีประชากรไม่ถึง 200 คน!! (ตามสัมมโนประชากรที่สำรวจครั้งล่าสุด) แต่ก็ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย และเป็นจุดที่มีเครื่องบินกลับ หรือจะเดินทางต่อด้วยรถไฟ (Amtrek) เพื่อเข้าไปเห็น Alaska ในแผ่นดิน เช่น Denali National park หรือ เทือกเขา Mckenley หลายคนที่มีเวลาจึงเดินทางต่อ 3-5 วัน เพื่อสัมผัสแผ่นดินอลาสก้าได้อย่างเต็มที่
สนนราคา ผมดูคร่าว ๆ แต่ยังไม่ได้ติดต่อ หรือต่อรอง เพราะได้ยินว่า Shouder period คือ ช่วงเวลาก่อนและหลัง peak period (Peak period คือ mid of Jun – Aug) จะมี discount 10-20% จาก List price เช่น ถ้าคุณเดินทางด้วยเรือ ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเรือคือ 600-800US$ สำหรับห้อง Basic (ที่อาจจะมีหน้าต่างเล็กนิดเดียว) ไปจนหลายพันเหรียญ สำหรับห้อง Suite ที่มีระเบียงส่วนตัว
ยังมีเวลาอีกเยอะ ผมจะเอามา Update ต่อไปเรื่อย ๆ จนได้ข้อมูลครบ ใครเคยไปหรือมีอยากที่จะไป ก็แชร์ได้ครับ
Princess Cruise : http://www.princess.com/learn/destinations/alaska/index.html
อืม หน้าหมีเหมือนตุ๊กตาจริงๆด้วย
ได้ตั๋วเครื่องบินแล้วครับ
China Airline บินไปลงเมือง Anchorage (Alaska) แล้วขึ้นเรือที่นั่น ลงมา Vancouver แล้วนั่งเครื่องบินกลับกทม. (ทั้งสองขา แวะที่ Taipei) ไม่ charge ค่าใช้จ่ายที่บินไปและกลับคนละที่ด้วย (เค้าเรียกว่า Open-jaw ticket) ตั๋ว 35,000 บาทเอง รวม tax แล้ว ถูกมาก
ส่วนเรือยังจองไม่ได้ online booking ใช้ง่ายไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับอเมริกาด้วย เลยต้องลองติดต่อหา agent ทางฝั่งเมกา เพราะได้ยินว่า agent เมืองไทย charge แพงมาก
ส่วนโปรแกรมที่ Alaska ก็ต้องซื้อทัวร์ที่นั่น หรือขับรถเที่ยวเอง อันนี้ไว้ทีหลัง เอาสองเรื่องบนให้เรียบร้อยก่อนครับ
กระทู้นี้ เทพมาก
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=2&topic_no=174736&topic_id=176922
ได้ Agent เรือแล้วครับ เป็น Rep ของ Princess ในเมืองไทย แพงกว่าจองในเวปนิดหน่อย พอรับได้
ที่อึ้งคือโรงแรมใน Alaska แพงมากกกกก โรงแรมธรรมดาก็ 200 กว่าดอลไปแล้ว อย่างนี้คงต้องพึ่ง Hostel แล้วล่ะ เอา Private room share bathroom นอนแค่คืนเดียว
สรุปคือ Anchorage มีเวลาเที่ยวเมืองหนึ่งวัน อาจจะไปดู Museum เที่ยวตลาด Saturday market แล้วนั่งรถไปขึ้นเรือที่ Whittier อยากให้ได้ไปลุย Denali เหมือนกัน แต่สองตายาย ไปกันเอง คงไปไม่ไหว
ขึ้นเรือไปก็ไปซื้อ Package เที่ยวตามเมืองที่แวะ
ได้รายละเอียด Cruise อีกเพียบเลย ทั้งของ Princess กับ Cunard (เคยเรียน case บริษัทนี้ตอนเรียน MBA ทึ่งมาก) มีหลายที่มาก เช่น Europe Carribean Asia ดูเหมือนจะมีที่ไปให้ผู้เกษียณอายุแล้ว อิอิ
i would like to know what representative you use to book for princess cruise in Thailand?
chk your e-mail krub.