ประเทศจีนฟองสบู่จะแตกรึเปล่า
9January 23, 2010 by Lin
ผมเห็นหัวข้อนี้เป็นประเด็นมากในช่วงที่ผ่านมา อยากแชร์ในมุมมองที่ไม่ใช่มุมนักเศรษฐศาสตร์ เป็นมุมมองคนทั่วไปที่เห็นและสัมผัสประเทศนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
อยากจะเขียนให้ฟังว่า จริง ๆ ในมุมมองผม ฟองสบู่จีนมันแตกไปหลายรอบแล้วครับในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
เพราะสิ่งที่ผมเห็นคือ ตึกขนาดใหญ่ ที่ว่างเปล่ามากมาย หรือก่อสร้างไม่เสร็จในหัวเมืองขนาดกลาง หรือเมืองย่อม ๆ ลงไป เรียกได้ว่าหลายเมือง ถูกวาดฝันที่ยิ่งใหญ่ และดับไปอย่างรวดเร็ว เมืองข้าง ๆ ก็ถูกจุดกระแสขึ้นมาอีก อภิมหาโปรเจคที่สร้างไม่เสร็จ หรือสร้างเสร็จแล้วร้าง ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในเมืองต่าง ๆ ในประเทศจีน
ปัจจุบันที่ผมเห็น จีนมีเมืองแบบกรุงเทพปี 40 อยู่ในสต๊อกเพียบเลยครับ แต่แตกต่างกันตรงที่จีนมีกำลังเงินมหาศาล และเป็น Planned economy ที่ถูก support ด้วยภาษีมหาศาล ใครจะรู้ว่าจีนเก็บภาษีในอัตราที่สูงมาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม 17% ภาษีบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ระดับ 35-45% ภาษีจิปาถะอีกเพียบ ภาษีรัฐบาลท้องถิ่นอย่างค่าผ่านทางหลวง ค่าเข้าสวนสาธารณะ ไม่เว้นแต่ค่าจอดจักรยาน(ข้างถนน)
ประเทศไทยคือกรุงเทพฯ แต่สำหรับจีน เมืองระดับกรุงเทพฯ ก็มีเป็นกระบุงโกย เรียกได้มีให้ทุบอีกมาก และเมืองที่พังยับไปแล้ว สุดท้ายก็ฟื้นขึ้นมาได้อยู่ดี เพราะตลาดมันโตตามทัน
ที่น่ากลัวคือเมือง Mega-city จริง ๆ อย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา มากกว่า อย่างอสังหาในปักกิ่งในช่วงปีที่ผ่านมา แค่ปีเดียวราคาขึ้นไปเกิน 50% ในบางทำเล เซี่ยงไฮ้ราคาที่ดินสูงลิ่ว แต่หัวเมืองหลักกลุ่มนี้รัฐบาลประคบประหงมยิ่งกว่าอะไรดี เติมระบบคมนาคม เติมโน่น เติมนี่ให้ เพื่อให้ value มันได้ตาม price ที่วิ่งเร็วเหมือนจรวด
ข้อมูลพวกนี้คือของจริงที่เห็น ถามว่าฟองสบู่จีนลูกใหญ่จะมีโอกาสแตกหรือไม่ คำตอบแบบกำปั้นทุบดินคือมี ผมว่าฟังคำทำนายเหล่านี้ไม่มีประโยชน์นัก แม้ว่าจะถูกอธิบายด้วยคำจำกัดความทางเศรษฐศาสตร์ยาก ๆ แต่คำถามที่สำคัญกว่าของประเทศนี้คือ บริษัทของจีน มีศักยภาพที่แท้จริงหรือไม่ บริษัทรถยนต์จะเติบโตมาเทียบชั้นญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรปได้หรือไม่ อุตสาหกรรมพลังงาน น้ำมัน อุตสาหกรรม IT/Electronic อย่างไรก็ดี ดูผิวเผินแล้วจีนมีความสามารถในการแข่งขันสูงเสียจนผมทึ่ง หลายครั้งที่เข้าไปทำการค้ากับจีน ผมก็เห็นราคาแบบ Chinese price ที่ต่ำจนไม่น่าเชื่อ บางคนถึงกับบอกว่าจีนทำบัญชีไม่เป็น
ทั้งหมดทั้งสิ้นถือว่าผมบ่นแล้วกันครับ อย่าเอาอะไรเป็นสรณะ เป็นเพียงคนที่เกิดคิดถึงประเทศที่เคยผูกพันมานาน และรู้สึกว่าคนวิจารณ์หากเห็นแค่ตัวเลขจะไปเข้าใจหรือทำนายได้ยังไง (ตัวเลขในประเทศจีนเชื่อถือได้แค่ไหน) บางสิ่งบางอย่างก็แค่เชื่อต่อ ๆ กันมา สำหรับในฐานะนักลงทุนหรือนักธุรกิจ ถ้าฟองสบู่จีนแตก ขอให้มีแผนรองรับที่เหมาะสม รู้ผลกระทบคร่าว ๆ กับธุรกิจของเรา สำหรับผมถ้ามีเวลานั้นจริง คงเป็นโอกาสที่ดีที่จะโฟกัสตลาดทุนต่างประเทศซักที
เห็นเขาว่า อสังหาจีนมีข้อได้เปรียบตรงที่ คนจีนซื้อด้วย equity ในสัดส่วนที่สูงมาก ถ้าฟองสบู่แตกจะไม่รุนแรง ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด
ไม่น่าจะจริงนะครับ เพราะผมมีเพื่อนหลายคนที่ซื้อคอนโดเก็งกำไรไว้เยอะมาก ค่าเช่าที่นั่นก็สูง (สาเหตุเพราะชาวต่างชาติเข้าไปเมืองจีนเยอะ และหากชาวต่างชาติซื้อ ต้องซื้อเงินสดเท่านั้น) แถมยังต้องจ่ายล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือนด้วย เงินหมุนกันกระจาย
อันนึงที่ผมเห็นคือจีนพึ่งพาระบบแบงค์น้อยลงเรื่อย ๆ มี PE กับ VC เกิดใหม่เพียบเลยครับ
อ่อครับ
อ่านข่าวสองสามวันนี้ชักเสียว
ถ้าจีนบู่แตกไปอีก ก็จบเห่ เพราะสหรัฐฯ ไม่ฟื้นแน่ๆ อยู่แล้ว
แหะ ๆ ผมดูข่าว CCTV ทบทวนปี 09 มีพูดถึงอสังหาซะยาวเลย ดูไปครึ่งชม. สรุปได้ว่าอสังหาราคาขึ้นเยอะมาก สร้างทีโครงการนึง 10 -20 ตึก ความกลัวมีอยู่น้อยเหลือเกิน รัฐบาลจีน(รัฐบาลคอมมิวนิสต์)ใช้วิธี proporganda มาทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ (แล้วก็ค่อย ๆ แอบปรับโน่นปรับนี่)
แต่ตอนนี้คนนอกคงเริ่มสงสัยว่าจีนจะซ้ำรอยญี่ปุ่น.. รัฐบาลจีนเอาอยู่รึเปล่านะ โมเบียสยังไปเต้นลาตินแล้ว 555 (สงสัยเก็งโอลิมปิก) กระแสเงินเริ่มออกจากเอเชีย
จีนมีปัญหาที่อสังหามาก ผมยังคิดไม่ออกว่าทำไม คนจีนเก็บเงินเก่งซะขนาดนี้ เงินเดือนขึ้นที 20-50% ทุกปี เอาเงินมาซื้อบ้าน รัฐบาลสนับสนุนบ้านหลังแรกอีก ราคาขึ้นจนติดใจ ซื้อหลังที่สองซะแล้ว
แต่อย่างว่าฟองสบู่อสังหาแตกไปบ้างแล้ว เพราะบางเมืองนี่เน่าไปเลย โดยเฉพาะเมืองเล็กเมืองน้อยที่มณฑล (แต่บางเมืองก็ฟื้นมาแล้ว) เซินเจิ้นราคาตกเยอะมากในช่วงนี้ ฟองสบู่เค้าสลับกันแตก ผมไม่เคยดูซับไพร์ม แต่เคยเห็นคร่าว ๆ ว่าโดนหนักแค่บางรัฐ อย่างแคลิฟอร์เนีย ที่เมืองจีนถ้าเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่งเละ คงจะเหนื่อย
ถามกลับหน่อยว่าพี่โจ้คมีมุมมองลงทุนปีนี้ยังไงดีครับ ขอไอเดียหน่อยครับ
ปีนี้มองไม่ออกจริงๆ
ขอบคุณครับ ตรงมาก อิอิ
ผมว่าฟองสบู่หนังจีนจะแตกซะก่อน
ช่วงนี้ฮอตมาก หลายเรื่องติด ๆ เลย ทั้งประธานเหมา ซุนยัดเซ็น มู่หลาน นายทัพ นายพลในสามก๊กอีกหลายท่าน ล่าสุดก็ปราชญ์ขงจื๊อ
มิน่าคนถึงเบื่อ ถ้าเป็นนักลงทุนคงเรียกว่าหา story มาแต่งเรื่องยากแล้ว ผมว่าผมชินกับอาหารจีนแล้วนะ ยังเอียน
เหมือนเป็นอกีหนึ่งสัญญาณที่มาคอนเฟิร์มว่า จีนกำลังกลายเป็นจุดสนใจของโลก แทนอเมริการึเปล่า หนังถึงได้ออกกันมาเยอะขนาดนี้
จีนเอาเรื่องอีกแล้ว คนงานประท้วงที่ Honda เรื่องขึ้นค่าแรง
คนจีนกินเค้ายากจริง ๆ เป็นแบบนี้ตลอด คือใช้กลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้าน
ถ้าเสียเปรียบจะทำเป็นยอมก่อนแล้วก็ค่อย ๆ เอาคืน
คนจีนนี่เป็นเล่าปี่กันเยอะจริง ๆ
เรื่องฟองสบู่อสังหา ช่วงเดือนนี้พูดกันเยอะมาก(อีกแล้ว) ผมคิดถึงเหตุการณ์ช่วงก่อนโอลิมปิคที่ปักกิ่ง ที่คาดว่าจีนจะฟุบ ฟองสบู่แตกหลังโอลิมปิค เพราะมีปัญหาเยอะรวมถึงเรื่องการส่งออก รัฐบาลก็ลดความร้อนแรงโดยเพิ่มภาษีกับผู้ส่งออก (ฉลาดมากที่เลือกเพิ่มมาก ๆ กับอุตสาหกรรมที่ใช้ resource เยอะๆ) เป็นวิธีที่ทำให้โรงงานจีนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แทนที่จะใช้วิธีปรับที่ค่าเงิน
คนตอนนั้นกลัวฟองสบู่มาก เพราะเห็นรัฐออกมาพูดปาว ๆ เหมือนกับเหตุการณ์จะคล้าย ๆ กันเลย
รัฐจีนคุมอะไรได้เยอะ ถ้าไม่มี very poor decision เกิดขึ้น ผมว่าฟองสบู่นี้ รัฐยังคุมได้ต่อไปอีกซักระยะ