บันทึกการเดินทางเส้นทางสายไหม 6,000 กม. (8)
6September 12, 2009 by Lin
ต่อจากตอนที่ 7 : ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง เชิญทัศนาต่อเลยครับ
เจอตัวแล้ว เด็กคนนี้แม่สอนไม่ให้คบคนหน้าเจ๊กแปลกหน้า เตรียมไม้มาไล่ตีผม
เด็กคนนี้โตขึ้นคงจะสวยมาก ว่าแล้วผมกับเพื่อนคนญี่ปุ่นพากันรวมหัวหลอกเด็ก แล้วสลับกันกดชัตเตอร์
เธอน่ารักมาก ๆครับ พูดกันไม่รู้เรื่องเพราะใช้คนละภาษา รู้งี้น่าจะลงทุนซื้อ Phrase book ของ Lonely Planet มาพกไว้
สุดท้ายก็ยอมเปิดประตูครับ
มีน้องแอบอยู่ในบ้านอีกคน เป็นพี่สาวที่ดีจริง ๆ ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย
ถึงผมยังอยากเล่นกับพวกเธอต่อ แต่ดูเวลาคงต้องไปต่อแล้ว
ดูท่าทางเธอ(แอบ)มาส่งพวกเราสิครับ
เขินไม่รู้จะพูดยังไงดี บิดตัวไป ๆ มา ๆ ตั้งนาน ส่วนตัวผมกับเพื่อน ก็แทบไม่อยากขึ้นรถไปต่อเลย
ภาพสุดท้ายของเด็กน้อยคนนี้ครับ … เพื่อนคนญี่ปุ่นบอกว่า she’s sad… .. แต่ผมว่าเป็นพวกเราต่างหากที่เสียใจ
ภาพตอนขากลับบนรถ .. เราทั้งสองคนแอบเหลือบมองจะหาเด็กคนนี้ โดยไม่ได้นัดกันไว้
พบแต่เพียง ภาพที่ความว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยความทรงจำ
ถึงจุดหมายแล้วการเดินทางครั้งนี้แล้ว Karakul lake 3800m เหนือระดับน้ำทะเล ยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย ทีแรกจะ trek ซักสองสามชม. (แพลนแรกคือ ขึ้นไปค้างคืนบนนั้น แต่เวลาไม่พอ และหาทีมไม่ได้ เลยไม่ได้เอา gear มาเลย) อยากเห็น Muztagh Ata (7,546m) ที่แอบในเมฆชัด ๆ หน่อย สุดท้ายยอมแพ้ เพราะหนาวเกินไป
น้ำแข็งมาเป็นก้อน ๆ เลย ความสูงแบบนี้ หนาวขนาดนี้ กับเสื้อกันลมตัวเดียวเกือบแย่ ดีที่ได้เข้าไปพักในกระโจมของคนที่นี่
ใจจริง อยากได้ฟ้าเปิด แล้ว Muztagh Ata สะท้อนกับทะเลสาบสีครามมากกว่า แต่ฟ้าปิดแบบนี้ เลยถ่าย under แล้วกัน ของจริงสวยกว่านี้มากครับ เป็น lake ที่พลาดไม่ได้จริง ๆ
เดินเจอลูกหมา น่ารักมาก ดูมีความสุข กับสถานที่ สงบ และเยือกเย็น
ขอ zoom หน่อย ถ้ามาเดือนต.ค. ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ เพราะหิมะบนเนินเขาข้างหน้าจะละลายหมด
นั่งเก็บบรรยากาศ … ความรู้สึกนี่บรรยายไม่ถูกเลยจริง ๆ
ภาพปิดท้ายครับ การเดินทาง…ตามฝันบนเส้นทางสายไหม ที่ยังรอการสานต่อ ในอนาคต..
สุดท้ายก่อนกล่าวคำลา การเดินทางร่วม 6,000 กิโล คงสำเร็จไม่ได้เลยถ้าปราศจาก
ครอบครัว สำหรับความเข้าใจ และกำลังใจ
เพื่อน ๆ สำหรับทุกความห่วงใย
เป้ใบโต รองเท้าคู่ใจ ที่ช่วยพากันไปยืนยังฝั่งฝัน
ใจตัวเองที่กล้าจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่พาให้ถึงที่หมายและกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ขอบคุณคนอ่านอีกครั้งที่อยู่ด้วยกันจนจบ
พบกันทริปหน้าครับ
กลายเป็นขาประจำ blog นี้ไปอีกคน ทริปหน้าเลยครับ รอครับ แล้ว ตอนนี้อยู่จีนหรอครับ เรียน หรือ ทำงานอะ
ผม ไม่เคยเห็นภาพเหล่านี้มาก่อนในชีวิต ไม่คิดว่าจะมีสถานที่บนโลก ที่ใหนอารมณ์แบบนี้อยู่อีก สมัยก่อน ตอนพระถั่งซำจั๋ง ไปอัญเชิญพระไตรปิฎก ที่อินเดีย ก็ใช้เส้นทางนี้หรอครับ เหมือนกับเส้นทางนี้ถูก สต๊าฟ ให้คงสภาพร่วม 2000 กว่าปี เพราะว่า แต่ละภาพ มีแต่ ฟ้า กับ ดินและน้ำ อยากไปครับ สักครั้งในชีวิต ก่อนที่เส้นทางจะเปลี่ยนไป เบื่อๆ กับภาพใน อเมริกา หรือยุโรป ต้องอารมณ์แบบนี้สิ น่าสนใจ
เส้นทางสายไหมมีหลายสายครับ มันจะไปแยกที่ับริเวณเมืองคัชการ์ในปัจจุบัน เส้นทางหนึ่ีงไปทางตะวันตก เส้นทางหนึ่งลงใต้ ผ่านแคชเมียร์ และเข้าสู่ชมพูทวีป เส้นทางที่พระถัมซัมจั๋งใช้ก็คือเส้นทางนี้แหละครับ
เอาไว้จะมาเก็บตกนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนไปเขียนต่อที่อื่น
ส่วนทริปอื่น อาจจะเป็นทริปขับรถทั่วทั้งฝรั่งเศสก็ได้ครับ จริง ๆ ฝรั่งเศส มีสถาปัตย์ที่มีมาเมื่อยุคกลาง ยังเหลือให้เห็นแบบสวย ๆ อยู่เลยครับ เค้าเก็บรักษาได้ดีมาก ส่วนของจีน อยากไปดู ผมแนะนำอย่างเดียวว่าให้รีบล่ะครับ
Lin พูดถูก หลินกับเพื่อนเป็นฝ่ายเศร้ามากกว่า พี่อ่านแล้วยังรู้สึกว่า 1 ชีวิต ได้มาพบเจอกันไม่นานก็จากกัน คนละถิ่น เก็บไว้ได้เพียงแค่ความทรงจำจริง ๆ
จะอ่านบันทึกก่อนหน้านี้ ทำยังงัยค่ะ อยากอ่านจัง บันทึกการเดินทางที่ทรงพลัง แบบนี้
ใส่สารบัญเอาไว้ให้แล้วครับ 🙂