วิถีแห่งความสุขในประเทศจีน
3June 19, 2009 by Lin
คืนสุดท้ายในปักกิ่ง ผมพยายามใช้เวลาที่มีอยู่ทบทวนสองปีในนครแห่งนี้
สิ่งหนึ่งที่ผมนึกได้เป็นอย่างแรก ๆ คือ คนจีน เผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนมากที่สุดในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์
บทความนี้อาจจะมี bias อยู่บ้าง เนื่องจากผมเป็นคนที่จดจำความทรงจำดี ๆ ได้ดี และไม่ค่อยเก็บอะไรไม่ดีไว้ให้รกสมอง อีกทั้งเรื่องต่าง ๆ ที่ผมจะเล่า อาจจะฟังดูเหลือเชื่อ และขัดกับความรู้สึกของคนทั่วไป แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ผมประสบเองกับตัว
ปีแรกในปักกิ่ง ผมเคยทำโน๊ตบุ้คหายที่โรงเรียน พนักงานทำความสะอาดเก็บไว้ให้ผมเป็นอย่างดี และไม่รับสินน้ำใจใด ๆ ที่ผมหยิบยื่นให้
กระเป๋าสตางค์ที่ผมลืมทิ้งไว้ที่เคาร์เตอร์ไปรษณีย์จีน ภายในมีจำนวนเงินหลายพันหยวน เทียบเท่าเงินเดือนหลายเดือนของพนักงานคนที่เก็บให้ผม
ระหว่างการเดินทางรอบประเทศจีนหลายครั้ง ผมได้รับน้ำใจมากมายจากคนจีนแท้ ๆ พวกเค้าแบ่งปันขนม อาหาร น้ำดื่มการช่วยเหลือ ถึงแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ผมนับถือน้ำใจในสิ่งเหล่านี้มาก เพราะมันบริสุทธิ์โดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน
พนักงานคนหนึ่งในโรงอาหารจีน คิดเงินผมผิดไป “หนึ่งหยวน” ผมเอะใจ แต่ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ทันเดินไปกี่ก้าว เค้าเรียกผม
พร้อมทั้งขอโทษขอโพย บอกว่าจะคืนให้คราวหน้า ทั้ง ๆ ที่เค้าไม่จำเป็นต้องทำและปล่อยผ่านไปได้ ผมตอบสั้น ๆ ว่าไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณมาก ..และยิ้ม
เค้าทำหน้าแปลกใจครู่หนึ่ง และยิ้มตอบ ผมได้รอยยิ้มหนึ่งหยวนที่น่ารักมาก ทำผมมีความสุขได้ทั้งวัน
ประเทศนี้ ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย โดยเฉพาะช่วงปฏิวัติ ปฏิรูปทั้งวัฒนธรรมและอุตสาหกรรม ในช่วงเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด อาจจะทำให้พวกเขาไม่พร้อมนัก และถูกเคลือบผิวด้วยกระแสโลกที่พวกเค้าไม่เคยรู้จักซึ่งคนส่วนมากมักไม่เข้าใจ และมักทำผิดพลาด
ผมเคยทุกข์มากเป็นเดือนเหมือนกัน
ตอนที่ผมใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนชาวจีนที่ไปแลกเปลี่ยนด้วยกันที่ประเทศฝรั่งเศส คนจีนที่ไม่เคยออกนอกประเทศเลย
ด้วยที่อยู่ห้องเดียวกัน ใช้ห้องน้ำ ห้องครัว ทุกอย่างร่วมกัน ทำเอาผมทะเลาและเขม่นกับเค้าหลายครั้ง
เพราะความรำคาญในมารยาทที่แปลก และความคิดที่สุดโต่งอย่างประหลาด
แต่โดยแท้จริง ทันทีที่ผมลบอคติเหล่านี้ออกไป ผมได้รับมิตรภาพที่ล้ำค่าที่สุด
ยิ่งคิดผมยิ่งสนุก ผมพิมพ์สิ่งที่ผมคิดออกมาแทบไม่ทัน ได้คิดย้อนไปถึงชีวิตตอนทำงานกับปูนซิเมนต์ไทย และริเริ่มเปิดตลาดการค้ากับจีน ตอนนั้นผมเพิ่งเข้าทำงานไม่นาน ประสบการณ์น้อยนิด เทคนิคการเจรจาต่อรองที่แทบไม่มี เล่ห์เหลื่ยม หรือจะเท่าทันชาวจีนได้อย่างไร
แต่จากไม่มีอะไรเลย สิ่งที่ปรากฏคือ ยอดการค้าที่พุ่งสูงจากศูนย์ ถึงเฉียดพันล้านบาท
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และมีความสุขในประเทศที่แสนวุ่นวายแห่งนี้
ไม่มีอะไรซับซ้อนเกินไปกว่า ทัศนคติ รอยยิ้ม และความจริงใจ เลย
และผมว่าสิ่งนี้คือความหมายของกวนซี 关系 ที่คนจีนต้องการ
ชอบ
มุมมองต่างความคิด ได้มุมคิดที่แตกต่าง
สวนกระแสมีเดียของไทยที่มีแต่ว่าจีนในทางลบ ผมอยู่จีนมาเป็นเวลานายเหมือนกันและได้รับน้ำใจและประสบการณ์ดีๆเหมือนกันครับ